พัฒนาคุณภาพชีวิตสังคมรอบข้าง
ในปี 2567 ไอ-เทลได้ริเริ่มโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมใหม่ รวมทั้งการขยายผลจากโครงการเดิมดังนี้
ความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดี
- โครงการ “โอกาสที่ 2 เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่บริษัทฯ เล็งเห็นว่าจำนวนสุนัขจรในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นต่อชุมชนและสัตว์เหล่านี้เอง รวมทั้งยังมีปัญหาการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมต่อสุนัขจร บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา) และศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิต และช่วยหาบ้านที่พร้อมรับเลี้ยงดูให้แก่สุนัขไร้บ้าน โดยจะดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2567-2571
-
โครงการสนับสนุนการฝึกสุนัข เริ่มในปี 2567 ร่วมกับศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการรับเลี้ยงสุนัขจร โดยศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ได้จัดโปรแกรมปรับพฤติกรรมสุนัขไร้บ้านที่มูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา) รับมาดูแล และในปี 2567 ไอ-เทลได้รับดูแล “ตัวเล็ก” และ “กันดั้ม” สุนัขจร 2 ตัว ซื่งเข้าคอร์สฝึกสุนัขครบ 3 เดือนแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567
ช่วงต้นปี 2568 “ตัวเล็ก” และ “กันดั้ม” จะเปิดตัว และเริ่มเข้าร่วมงานสังคม เพื่อสร้างความบันเทิงให้เด็กๆ และผู้สูงวัย มีรายงานการศึกษาพบว่าความใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดความเครียด ความรู้สึกโดดเดี่ยว และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสังคม
-
การสนับสนุนอาหาร
ในปี 2568 บริษัทฯ จะยกระดับการส่งเสริมสุขภาพสุนัขจรในศูนย์พักพิง โดยการบริจาคอาหารสุนัขให้แก่มูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา) เป็นอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการและปรับสูตรเฉพาะให้มีสารอาหารหลักและรองตรงตามความต้องการของสุนัข รวมทั้งบำรุงผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี
การสนับสนุนอาหารสุนัขคุณภาพสูงจะช่วยให้สุนัขดูมีสุขภาพดีขึ้น เพิ่มโอกาสที่จะหาบ้านใหม่ได้มากขึ้น บริษัทฯ เชื่อว่าสุนัขที่มีสุขภาพดี มีขนเป็นเงางาม แข็งแรงจะมีโอกาสได้รับความสนใจจากครอบครัวที่ต้องการรับเลี้ยงมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
-
สรรค์สร้างของเล่นสุนัขจากวัสดุเหลือใช้
โครงการนี้เกิดจากความสร้างสรรค์ที่ผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับสุขอนามัยสัตว์ โดยมีพนักงาน 39 คนของบริษัทฯ เข้าร่วมกิจกรรม “สร้างสรรค์ของเล่นสุนัข” จากเศษผ้า และสามารถทำของเล่นได้ถึง 72 ชิ้น โดยได้นำไปบริจาคให้สุนัขภายใต้การดูแลของมูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
กิจกรรมนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความตระหนักในด้านกิจกรรมที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น การรีไซเคิล เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไอ-เทลต่อการส่งเสริมสุขอนามัยความเป็นอยู่ของสัตว์ กิจกรรมดังกล่าวได้สร้างความสนใจในหมู่พนักงานที่จะทำกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของสุนนัขและแมว
-
เพื่อนรักสี่ขา
วัคซีนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ไอ-เทล จึงได้ร่วมรณรงค์ให้ความรู้แก่ชชุมชนเรื่องความสำคัญของวัคซีนผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงภายในชุมชนได้รับการปกป้องจากโรคและมีสุขภาพดี
ไอ-เทล ได้จัดกิจกรรรม i-Cattery Vaccination ร่วมกับแบรนด์ i-Cattery ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัทฯ เอง ในการฉีดวัคซีนให้สุนัขและแมวในชุมชน โดยบริษัทได้บริจาควัคซีนให้แก่บ้านพักพิงสัตว์และคลินิกรักษาสัตว์ เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีน รวมทั้งได้ร่วมกับหน่วยงานปศุสัตว์และองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า มีสุนัขและแมวรวมประมาณ 400 ตัวที่ได้รับวัคซีนตามโครงการนี้
การให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ
-
โครงการ “Safe Haven: People and Pets”
บริษัทฯ ริเริ่มโครงการนี้ในปี 2567 และได้ขยายผลความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การช่วยเหลือสัตว์ไร้บ้าน และสนับสนุนเครือข่ายอาสาสมัคร ตลอดจนบ้านพักพิงสัตว์ไร้ที่พึ่ง
ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม: ไอ-เทลได้แจกจ่ายถุงยังชีพ 1,120 ชุดให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสงขลา รวมถึงการบริจาคข้าวสาร ปลากระป๋อง และน้ำดื่มให้แก่ครัวกลางที่เทศบาลตำบลพะวงดำเนินการเพื่อปรุงอาหารช่วยเหลือประชาชน และอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัย
การให้ความช่วยเหลือสัตว์ไร้ที่พึ่ง: ในขณะที่เกิดภัยน้ำท่วม สัตว์ไร้บ้านต่างๆ ต้องประสบความยากลำบากมากเช่นเดียวกับมนุษย์ ไอ-เทล จึงได้บริจาคอาหารสัตว์คุณภาพสูงให้แก่บ้านพักพิงสัตว์และมูลนิธิต่างๆ ที่ดูแลสัตว์ไร้บ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์เหล่านี้จะได้รับอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วนในช่วงประสบภัยพิบัติ และยังคงมีสุขภาพดีได้
- ความร่วมมือกับมูลนิธิบ้านหมายิ้ม: ไอ-เทล ได้ขยายผลความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิบ้านหมายิ้ม จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นศูนกลางในการให้ความช่วยเหลือแก่เครือข่ายอาสาสมัครและบ้านพักพิงสัตว์ไร้บ้านทั่วภาคใต้ บริษัทฯ ได้บริจาคเงินกว่า 760,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินการช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ